๑๖ มกราคมของทุกปีถือเป็น “วันครู”

จำได้ว่าสมัยเรียนประถม เราเรียกผู้สอนทุกคนว่า “ครู” แต่พอเรียนสูงขึ้นในระดับมัธยมและมหาวิทยาลัย จากที่เคยเรียกผู้สอนว่า “ครู” ก็เปลี่ยนเป็นเรียกว่า “อาจารย์”
เอาเข้าจริงแล้ว ครู และ อาจารย์ แตกต่างกันตรงไหน
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.๒๕๔๒ ให้ความหมายของคำว่า “ครู” ไว้ว่า ผู้สั่งสอนศิษย์ ผู้ถ่ายทอดความรู้ให้แก่ศิษย์ โดยมีรากศัพท์มาจากภาษาบาลี สันสกฤต ว่า “คุรุ” ซึ่งหมายถึง หนัก
ส่วนคำว่า “อาจารย์” หมายถึง ผู้สั่งสอนวิชาความรู้ หรือคําที่ใช้เรียกนําหน้าชื่อบุคคลเพื่อแสดงความยกย่องว่ามีความรู้ในทางใดทางหนึ่ง มาจากภาษาบาลี สันสกฤตว่า “อาจริย” ซึ่ง จริย หมายถึง ความประพฤติหรือกิริยาที่ควรประพฤติ
จากความหมายดังกล่าว การทำหน้าที่แต่เพียงถ่ายทอดความรู้ให้แก่ศิษย์ จึงยังไม่เพียงพอที่จะเป็น “ครู” หรือ “อาจารย์” แต่จะต้องประกอบด้วยการทุ่มเทกายใจในการถ่ายทอดความรู้รวมถึงการเป็นแบบอย่างที่ดีด้านความประพฤติ
โดยนัยยะ จะเป็น “ครู” หรือ “อาจารย์” จึงไม่ใช่ของง่าย ท่านพุทธทาสภิกขุ เคยกล่าวไว้ว่า คำว่า “ครู” เป็นคำที่สูงมาก เป็นผู้เปิดประตูทางวิญญาณ แล้วก็นำให้เกิดทางวิญญาณไปสู่คุณธรรมเบื้องสูง เป็นเรื่องทางจิตใจโดยเฉพาะ มิได้หมายถึงเรื่องวัตถุ
เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ เขียนกวีบท “ใครคือครู” ได้อย่างน่าประทับใจ เพราะชี้ให้เห็นว่าค่าของความเป็นครูนั้นอยู่ที่การ “ยกระดับจิตใจ” ให้ศิษย์ มิใช่การสอนให้ศิษย์เป็นเลิศด้านวิชาการแต่เพียงอย่างเดียว กวีบทนี้เคยใช้ประกอบโฆษณาทางโทรทัศน์ คาดว่าหลายท่านคงผ่านผ่านตามาบ้าง
ใครคือครูครูคือใครในวันนี้ ใช่อยู่ที่ปริญญามหาศาล
ใช่อยู่ที่เรียกว่าครูอาจารย์ ใช่อยู่นานสอนนานในโรงเรียน
ครูคือผู้ชี้นำทางความคิด ให้รู้ถูกรู้ผิดคิดอ่านเขียน
ให้รู้ทุกข์รู้ยากรู้พากเพียร ให้รู้เปลี่ยนแปลงสู้รู้การงาน
ครูคือผู้ยกระดับวิญญาณมนุษย์ ให้สูงสุดกว่าสัตว์เดรัจฉาน
ครูคือผู้สั่งสมอุดมการณ์ มีดวงมาลเพื่อมวลชนใช่ตนเอง
ครูจึงเป็นนักสร้างผู้ใหญ่ยิ่ง สร้างความจริงสร้างคนกล้าสร้างคนเก่ง
สร้างคนให้เป็นตัวของตัวเอง ขอมอบเพลงนี้มาบูชาครู
อย่างไรก็ตาม เรามักรู้สึกว่าค่าของ “ครู” ตกต่ำลงเรื่อยๆ ในสังคมปัจจุบัน ไล่มาตั้งแต่ เป็นสาขาวิชาที่ผู้เรียนมักจะไม่เลือกเป็นอันดับแรกๆ ในการสอบเข้าเรียนต่อ เป็นอาชีพท้ายๆ ที่คนมักจะนึกถึง รวมไปถึงข่าวคราวที่ครูทำร้ายนักเรียนซึ่งปรากฏผ่านสื่ออยู่บ่อยครั้ง ก็ทำให้ความศรัทธาที่คนทั่วไปมีต่อวิชาชีพครูลดน้อยถอยลง ทั้งที่ “ครู” เป็นอาชีพที่สำคัญมาก เนื่องจากคนเป็นครูต้องอยู่กับเด็กกับเยาวชนผู้ซึ่งเป็นอนาคตของชาติ รวมทั้งถ่ายทอดความรู้ อบรม ขัดเกลา ยกระดับจิตใจให้พวกเขาเหล่านั้นพาตัวเองและสังคมให้อยู่รอดปลอดภัยในกระแสโลกาภิวัตน์
ผู้เขียนเชื่อว่า ในสังคมไทยยังมีครูที่ดีอยู่มาก ไม่เช่นนั้น ประเทศไทยคง “ไปไม่รอด”มานานแล้ว แต่ก็เชื่อว่า ครูที่ไม่ดีก็มีอยู่เช่นกัน เป็นธรรมดาของทุกสังคม ทุกอาชีพ ที่มีทั้งคนดีและคนไม่ดี แต่เราในฐานะ “ศิษย์” ก็สามารถเลือกได้ว่า เราจะจดจำแบบอย่างความประพฤติ และคำสอนจาก “ครู” แบบไหน
๑๖ มกรา วันครู
ขอมอบเพลงนี้มาบูชาครู
จาก: http://www.teenpath.net/content.asp?ID=11612